ประกาศการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับการใช้กล้องวงจรปิด
(CCTV Privacy Notice)
ฉบับปรับปรุงล่าสุด: วันที่ 1 มิถุนายน 2565
สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล (ซึ่งต่อไปในประกาศนี้ “สำนักงาน”) มีการดำเนินการใช้งานกล้องวงจรปิด (CCTV) สำหรับการตรวจตราพื้นที่และการเฝ้าระวังสังเกตการณ์ในพื้นที่ภายในและรอบบริเวณ ทั้งใน สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล ส่วนกลาง และสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัลสาขา (“พื้นที่”) ของสำนักงาน เพื่อการรักษาความปลอดภัยและความั่นคงของสำนักงาน การปกป้องชีวิต สุขภาพ และทรัพย์สิน พื้นที่ของสำนักงานประกอบด้วย ดังต่อไปนี้
ส่วนกลาง
สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล อาคารลาดพร้าว ฮิลล์ เลขที่ 80 ซอยลาดพร้าว 4 ถนนลาดพร้าว แขวงจอมพล เขตจตุจักร กรุงเทพมหานคร 10900
สำนักงานสาขา
สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล สาขาภาคเหนือตอนบน เลขที่ 158 ถนนทุ่งโฮเต็ล ตำบลวัดเกต อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ 50000
สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล สาขาภาคเหนือตอนล่าง อาคารเอกาทศรถ ชั้น 1 มหาวิทยาลัยนเรศวร เลขที่ 99 ต.ท่าโพธิ์ อ.เมือง จ.พิษณุโลก 65000
สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล สาขาภาคอีสานตอนกลาง เลขที่ 332 ถนนเหล่านาดี หมู่ที่ 8 ตำบลเมืองเก่า อำเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น 40000
สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล สาขาภาคอีสานตอนล่าง เลขที่ 555 ศาลากลางจังหวัดอุบลราชธานี ชั้น 3 ถนนแจ้งสนิท ต.แจระแม อ.เมือง จ.อุบลราชธานี 34000
สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล สาขาภาคกลางและภาคตะวันออก เลขที่ 555 หมู่ 9
ต.ทุ่งสุขลา อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี 20230
สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล สาขาภาคใต้ตอนบน ชั้น 2 ศาลากลางจังหวัดภูเก็ตหลังใหม่ ศูนย์ราชการจังหวัดภูเก็ต ถนนท่าแครง ตำบลตลาดเหนือ อำเภอเมืองภูเก็ต จังหวัดภูเก็ต 83000
สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล สาขาภาคใต้ตอนล่าง มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตหาดใหญ่ อาคารคณะการจัดการสิ่งแวดล้อม ห้องE206 ชั้น 2 เลขที่ 15 ถนนกาญจนวนิชย์
ต.คอหงส์ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา 90110
ทั้งนี้ สำนักงานทำการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าหน้าที่ ผู้ปฏิบัติงาน ลูกค้า ลูกจ้าง ผู้รับเหมา ผู้มาติดต่อ หรือ บุคคลใด ๆ (ซึ่งต่อไปนี้จะเรียกรวมกันว่า “ท่าน”) ที่เข้ามายังพื้นที่ โดยผ่านการใช้งานอุปกรณ์กล้องวงจรปิดดังกล่าว
ประกาศความเป็นส่วนตัวในการใช้กล้องวงจรปิด (“ประกาศ”) ฉบับนี้ให้ข้อมูลเกี่ยวกับการดำเนินการเก็บรวบรวม ใช้หรือเปิดเผย ซึ่งข้อมูลที่สามารถทำให้สามารถระบุตัวท่านได้ (“ข้อมูลส่วนบุคคล”) รวมทั้งสิทธิต่าง ๆ ของท่าน ดังนี้
ฐานกฎหมายในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล
สำนักงานดำเนินการเก็บรวบรวม เปิดเผย หรือประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ภายใต้หลักเกณฑ์หรือฐานกฎหมายดังต่อไปนี้
ฐานประโยชน์สำคัญต่อชีวิต การเก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผย หรือประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลนั้น เป็นการจำเป็นเพื่อป้องกันหรือระงับอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย หรือสุขภาพของท่านหรือบุคคลอื่น
ฐานประโยชน์อันชอบด้วยกฎหมาย การเก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผย หรือประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเป็นการดำเนินการเพื่อประโยชน์อันชอบด้วยกฎหมายของสำนักงาน เพื่อบรรลุวัตถุประสงค์อย่างใดอย่างหนึ่งของสำนักงาน
ฐานหน้าที่ตามกฎหมาย สำนักงานมีหน้าที่ต้องปฏิบัติตามภาระผูกพันตามที่กำหนดไว้โดยกฎหมายที่ใช้บังคับ ซึ่งรวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียง กฎหมายว่าด้วยความปลอดภัยและสิ่งแวดล้อมในสถานที่ทำงาน สำนักงานถือว่าการใช้กล้องวงจรปิดเป็นมาตรการที่สำคัญซึ่งช่วยให้สำนักงานสามารถปฏิบัติตามภาระผูกพันเหล่านี้ได้
วัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
สำนักงานดำเนินการเก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผย หรือประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเพื่อวัตถุประสงค์ ดังต่อไปนี้
- เพื่อการคุ้มครองชีวิต ร่างกาย สุขภาพ ความปลอดภัยส่วนบุคคล และทรัพย์สินของบุคคลต่างๆ
- เพื่อการคุ้มครองและป้องกันอาคาร สถานที่ สิ่งอำนวยความสะดวก และสินทรัพย์ของสำนักงานจากความเสียหาย การถูกรบกวน การถูกทำลาย และอาชญากรรมอื่นๆ
- เพื่อสนับสนุนหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายในการป้องกัน สืบสวน และดำเนินคดีต่ออาชญากรรม และการดำเนินการเพื่อการยับยั้งอาชญากรรม
- เพื่อการช่วยเหลือในการระงับข้อพิพาทอย่างมีประสิทธิภาพ ตามที่เกิดขึ้นในกระบวนการทางวินัยหรือการร้องทุกข์
- เพื่อการช่วยเหลือในการสอบสวนหรือกระบวนการที่เกี่ยวกับการแจ้งเบาะแส และกระบวนการเกี่ยวกับการส่งเรื่องร้องเรียน
- เพื่อการให้ความช่วยเหลือในกระบวนการริเริ่มหรือป้องกันการฟ้องร้องทางแพ่ง ซึ่งรวมไปถึงแต่ไม่จำกัดเพียงการดำเนินการทางกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการจ้างงาน
ข้อมูลส่วนบุคคลที่สำนักงานเก็บรวบรวมและใช้
ตามวัตถุประสงค์ตามที่ได้แจ้งในข้อ 2. สำนักงานทำการติดตั้งกล้องวงจรปิดในตำแหน่งที่มองเห็นได้ โดยจะจัดวางป้ายเตือนว่ามีการใช้งานกล้องวงจรปิด ณ ทางเข้าและทางออก รวมถึงพื้นที่ที่สำนักงานเห็นสมควรว่าเป็นจุดที่ต้องมีการเฝ้าระวัง เพื่อเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเมื่อท่านเข้ามายังพื้นที่ ดังต่อไปนี้
รายการข้อมูลส่วนบุคคลที่เก็บรวบรวม |
ภาพนิ่ง |
ภาพเคลื่อนไหว |
เสียง |
ภาพทรัพย์สินของท่าน เช่น พาหนะ กระเป๋า หมวก เครื่องแต่งกาย ยานพาหนะ รวมถึงสัมภาระต่างๆ เป็นต้น |
ทั้งนี้ สำนักงานจะไม่ทำการติดตั้งกล้องวงจรปิดในพื้นที่ที่อาจล่วงละเมิดสิทธิขั้นพื้นฐานของท่านจนเกินสมควร ได้แก่ ห้องพัก ห้องน้ำ ห้องอาบน้ำ หรือสถานที่เพื่อใช้ในการพักผ่อนของผู้ปฏิบัติงาน
การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
สำนักงานจะเก็บรักษาข้อมูลในกล้องวงจรปิดที่เกี่ยวกับท่านไว้เป็นความลับ และจะไม่ทำการเปิดเผย เว้นแต่ กรณีที่สำนักงานมีความจำเป็นเพื่อให้สามารถบรรลุวัตถุประสงค์ในการเฝ้าระวังสังเกตการณ์ตามที่ได้ระบุในประกาศฉบับนี้ สำนักงานอาจเปิดเผยข้อมูลในกล้องวงจรปิดแก่ประเภทของบุคคลหรือ
นิติบุคคล ดังต่อไปนี้
สำนักงานอาจเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านต่อหน่วยงานบังคับใช้กฎหมาย หากมีความจำเป็นต้องเปิดเผยเพื่อการปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมายของสำนักงาน และเพื่อสนับสนุนหรือช่วยเหลือหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายในการป้องกัน สืบสวน และดำเนินคดีต่ออาชญากรรม
สำนักงานอาจเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านต่อบุคคลที่สาม (รวมถึงผู้ให้บริการซึ่งเป็นบุคคลภายนอก เครือข่ายความร่วมมือ หน่วยงานร่วมดำเนินการ ของสำนักงาน) ในกรณีที่สำนักงานพิจารณาว่ามีความจำเป็นต้องเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลนั้นเพื่อวัตถุประสงค์ตามที่ระบุข้างต้น
สิทธิตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 ของท่าน
พระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 มีวัตถุประสงค์เพื่อให้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านอยู่ในความควบคุมของท่านได้มากขึ้น โดยท่านสามารถใช้สิทธิตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 เมื่อบทบัญญัติในส่วนที่เกี่ยวกับสิทธิของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลมีผลใช้บังคับ ซึ่งมีรายละเอียดดังต่อไปนี้
สิทธิการเข้าถึง ท่านมีสิทธิเข้าถึงและขอรับสำเนาข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน หรือขอให้มีการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่สำนักงานเก็บรวบรวมอยู่ โดยคำขอนั้นจะต้องทำเป็นลายลักษณ์อักษรและส่งไปยังช่องทางตามที่ระบุไว้ในส่วน “การติดต่อสำนักงาน” คำขอของท่านจะได้รับการดำเนินการภายในระยะเวลาที่กฎหมายกำหนด สำนักงานอาจปฏิเสธตามคำขอของท่านได้ ในกรณีที่คำขอนั้นกระทบต่อสิทธิและเสรีภาพของบุคคลอื่น ทั้งนี้เพียงเท่าที่ได้รับอนุญาตโดยกฎหมายหรือคำสั่งศาล
สิทธิในการขอแก้ไขให้ถูกต้อง ท่านมีสิทธิขอให้มีการดำเนินการแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลของท่านซึ่งสำนักงานได้ประมวลผลเกี่ยวกับท่านให้สมบูรณ์ ถูกต้อง ไม่ก่อให้เกิดความเข้าใจผิด หรือเป็นปัจจุบัน
สิทธิการโอนย้ายข้อมูล ท่านอาจมีสิทธิขอรับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่สำนักงานมีอยู่ในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ที่มีการจัดเรียงแล้ว และส่งข้อมูลส่วนบุคคลนั้นไปยังผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลรายอื่น โดยต้องเป็น (ก) ข้อมูลส่วนบุคคลที่ท่านได้ให้กับสำนักงาน และ (ข) กรณีที่สำนักงานประมวลผลข้อมูลนั้นโดยอาศัยฐานความยินยอมจากท่าน
สิทธิในการขอให้ระงับ ท่ามีสิทธิในการขอให้ระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านในกรณีหนึ่งกรณีใด ดังต่อไปนี้
เมื่ออยู่ในช่วงเวลาที่สำนักงานทำการตรวจสอบตามคำร้องขอของท่านให้แก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้ถูกต้อง สมบูรณ์และเป็นปัจจุบัน
ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านถูกเก็บรวบรวม ใช้หรือเปิดเผยโดยมิชอบด้วยกฎหมาย
เมื่อข้อมูลส่วนบุคคลของท่านหมดความจำเป็นในการเก็บรักษาไว้ตามวัตถุประสงค์สำนักงานได้แจ้งไว้ในการเก็บรวบรวม แต่ท่านประสงค์ให้สำนักงานเก็บรักษาข้อมูลนั้นต่อไปเพื่อประกอบการใช้สิทธิตามกฎหมายของท่าน
เมื่ออยู่ในช่วงเวลาที่สำนักงานกำลังพิสูจน์ให้ท่านเห็นถึงเหตุอันชอบด้วยกฎหมายในการเก็บรวบรวม ใช้หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน หรือตรวจสอบความจำเป็นในการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเพื่อประโยชน์สาธารณะ อันเนื่องมาจากการที่ท่านได้ใช้สิทธิคัดค้านการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
สิทธิในการคัดค้าน ท่านมีสิทธิในการคัดค้านการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อการบรรลุประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของสำนักงาน (หรือของบุคคลอื่น) ได้ สำนักงานอาจปฏิเสธตามคำขอของท่าน ในกรณีที่สำนักงานสามารถแสดงได้ว่ามีเหตุอันชอบด้วยกฎหมายในการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวซึ่งอาจสำคัญยิ่งกว่าประโยชน์ของท่าน หรือถ้าการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวเป็นไปเพื่อก่อตั้งสิทธิเรียบร้องตามกฎหมาย การปฏิบัติตามหรือการใช้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย หรือการยกขึ้นต่อสู้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย
สิทธิการลบหรือทำลายข้อมูล ท่านมีสิทธิขอให้สำนักงานดำเนินการลบหรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน หรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวบุคคลที่เป็นเจ้าของข้อมูลได้ หากท่านเชื่อว่า (ก) ข้อมูลส่วนบุคคลนั้นหมดความจำเป็นสำหรับวัตถุประสงค์ที่ระบุในประกาศฉบับนี้แล้ว หรือ (ข) ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านได้ถูกเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยโดยไม่ชอบธรรมด้วยกฎหมาย ทั้งนี้ สำนักงานอาจปฏิเสธที่จะปฏิบัติตามคำขอให้ลบหรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคลของท่านได้ เพื่อการก่อตั้งสิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย การปฏิบัติตามหรือการใช้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย การยกขึ้นต่อสู้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย หรือการปฏิบัติตามกฎหมาย
สิทธิการจำกัดการประมวลผล ท่านมีสิทธิขอให้สำนักงานระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน หากท่านเชื่อว่าสำนักงานหมดความจำเป็นในการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลนั้น เพื่อวัตถุประสงค์ตามที่ระบุในประกาศฉบับนี้แล้ว แต่ท่านยังต้องการให้เก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลนั้นไว้ เพื่อการก่อตั้งสิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย การปฏิบัติตามหรือกาใช้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย การยกขึ้นต่อสู้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย หรือการปฏิบัติตามกฎหมาย
สิทธิการถอนความยินยอม ในกรณีที่ท่านได้ยินยอมให้สำนักงานเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ท่านมีสิทธิที่จะถอนความยินยอมนั้น ณ เวลาใดก็ได้
สิทธิการยื่นเรื่องร้องเรียน ท่านมีสิทธิยื่นเรื่องร้องเรียนสำนักงานต่อหน่วยงานกำกับดูแลการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลได้ หากท่านเชื่อว่าสำนักงานฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามหน้าที่ใดๆ ของสำนักงานตามกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่ใช้บังคับ
ระยะเวลาในการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคล
เพื่อบรรลุวัตถุประสงค์ของการเฝ้าระวังสังเกตโดยการใช้อุปกรณ์กล้องวงจรปิดตามที่ประกาศนี้กำหนด สำนักงานจะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลในกล้องวงจรปิดที่เกี่ยวข้องกับท่าน ดังต่อไปนี้
สำนักงานอาจเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไว้ไม่เกินกว่าระยะเวลาเท่าที่จำเป็นเพื่อการบรรลุวัตถุประสงค์ตามที่ระบุในประกาศฉบับนี้ หรือเท่าที่จำเป็นตามกฎหมายที่ใช้บังคับ อนึ่ง สำนักงานอาจจำเป็นต้องเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไว้เป็นระยะเวลาเท่าที่จำเป็นเพื่อการจัดการข้อพิพาทหรือกระบวนการทางกฎหมายซึ่งอาจเกิดขึ้น
ถ้าสำนักงานหมดความจำเป็นในการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน สำนักงานอาจทำลาย ลบ นำออกจากระบบ หรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวบุคคลที่เป็นเจ้าของข้อมูลได้
การรักษาความมั่นคงปลอดภัยข้อมูลส่วนบุคคล
สำนักงานมีมาตรการในการรักษาความมั่นคงปลอดภัยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านอย่างเหมาะสม ทั้งในเชิงเทคนิคและการบริหารจัดการ เพื่อป้องกันมิให้ข้อมูลสูญหาย หรือมีการเข้าถึง ลบ ทำลาย ใช้ เปลี่ยนแปลง แก้ไข หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลโดยไม่ได้รับอนุญาต ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายและแนวปฏิบัติด้านความมั่นคงปลอดภัยสารสนเทศ (Information Security Policy) ของสำนักงาน
นอกจากนี้ สำนักงานได้กำหนดให้มีนโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลขึ้นโดยประกาศให้ทราบกันโดยทั่วทั้งองค์กร พร้อมแนวทางปฏิบัติเพื่อให้เกิดความมั่นคงปลอดภัยในการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล โดยธำรงไว้ซึ่งความเป็นความลับ (Confidentiality) ความถูกต้องครบถ้วน (Integrity) และสภาพพร้อมใช้งาน (Availability) ของข้อมูลส่วนบุคคล โดยสำนักงานได้จัดให้มีการทบทวนนโยบายดังกล่าวรวมถึงประกาศนี้ในระยะเวลาตามที่เหมาะสม
ความรับผิดชอบของผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล
สำนักงานได้กำหนดให้เจ้าหน้าที่เฉพาะผู้ที่มีอำนาจหน้าที่เกี่ยวข้องในการจัดเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของกิจกรรมการประมวลผลนี้เท่านั้นที่จะสามารถเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลของท่านได้ โดยสำนักงานจะดำเนินการให้เจ้าหน้าที่ปฏิบัติตามประกาศนี้อย่างเคร่งครัด
การเปลี่ยนแปลงแก้ไขคำประกาศเกี่ยวกับความเป็นส่วนตัว
ในการปรับปรุงหรือเปลี่ยนแปลงประกาศนี้ สำนักงานอาจพิจารณาแก้ไขเปลี่ยนแปลงตามที่เห็นสมควร และจะทำการแจ้งให้ท่านทราบผ่านช่องทาง ได้แก่ เว็บไซต์สำนักงาน หรือติดประกาศที่ทางเข้า หรือแสดง QR Code ที่ป้อม รปภ. หรือโต๊ะประชาสัมพันธ์ โดยมีวันที่ของเวอร์ชันล่าสุดกำกับอยู่ตอนท้าย อย่างไรก็ดี สำนักงานขอแนะนำให้ท่านโปรดตรวจสอบเพื่อรับทราบประกาศฉบับใหม่อย่างสม่ำเสมอ โดยเฉพาะก่อนที่ท่านจะเข้ามาในพื้นที่ของสำนักงาน
การเข้ามาในพื้นที่ของท่าน ถือเป็นการรับทราบตามข้อตกลงในประกาศนี้ ทั้งนี้ โปรดระงับการเข้าพื้นที่ หากท่านไม่เห็นด้วยกับข้อตกลงในประกาศฉบับนี้ หากท่านยังคงเข้ามาในพื้นที่ต่อไปภายหลังจากที่ประกาศนี้มีการแก้ไขและนำขึ้นประกาศในช่องทางข้างต้นแล้ว จะถือว่าท่านได้รับทราบการเปลี่ยนแปลงดังกล่าวแล้ว
การติดต่อสอบถาม
หากท่านมีข้อสงสัยเกี่ยวกับประกาศฉบับนี้ หรือหากท่านประสงค์ที่จะใช้สิทธิของท่าน โปรดติดต่อสำนักงานที่ doss@depa.or.th หรือหมายเลขโทรศัพท์ 02-026-2333